Search Results for: บทความ

ในตอนแรกของหัวข้อที่ควรหลีกเลี่ยง พูดคุยในที่ทำงาน นั้น เราได้ทราบถึงหัวข้อหลักๆ ที่มีความสำคัญแล้ว ซึ่งหัวข้อเหล่านั้นสามารถก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างรุนแรงได้ และนำไปสู่อารมณ์ระหว่างกัน ในส่วนนี้เป็นหัวข้อที่ค่อนข้างมีระดับความรุนแรงลดลงมา แต่ก็สามารถชักนำให้เกิดแนวคิดในเชิงลบได้เช่นกัน ซึ่งการ พูดคุยในที่ทำงาน ทั้งหมดนี้คุณควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ความใฝ่ฝันในอาชีพของคุณ แม้ความฝันจะเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งคุณก็ไม่ควรแบ่งปันให้ใครได้รับรู้ ถ้าต้องการพูด ก็พูดคร่าวๆ แล้วเปลี่ยนหัวข้อไป อย่าพูดลงรายละเอียดเชิงลึกว่าคุณต้องการอะไรและตั้งใจจะก้าวหน้าแบบไหน...

เวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ สัมภาษณ์งาน หลายๆ คนมักจะได้พบกับคำถามสุดคลาสสิกอย่าง “อะไรคือจุดอ่อนของคุณ” และอาจเคยนิ่งงัน ใช้เวลาคิดทบทวนมาแล้ว แม้ว่าคำถามนี้อาจดูเป็นคำถามที่น่ากลัว ดูตอบยาก ทว่าในความเป็นจริงมีวิธีกำหนดมุมมองเชิงบวกในการตอบอย่างง่ายๆ ที่จะช่วยส่งให้ตัวของคุณเปล่งประกายท่ามกลางผู้สมัครรายอื่นได้ดี หากเลือกตอบอย่างเข้าใจ ทำความเข้าใจ “หัวใจ” ของคำถาม การที่ผู้สัมภาษณ์งานถามคำถามนี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเล่ารายละเอียดทั้งหมดว่าตนเองมี “จุดอ่อน” เรื่องใดบ้าง แต่คุณต้องระบุเฉพาะจุดอ่อนเจาะจงที่อาจส่งผลถึงการทำงานร่วมกันกับทีม...

อย่าประมาทความสำคัญในการสร้าง ความประทับใจในที่ทำงาน เมื่อเจ้านายและเพื่อนร่วมงานของคุณรู้ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาคุณให้ทำงานที่ดีได้ คุณก็จะเริ่มได้รับความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การได้รับคำชม รางวัล สวัสดิการ หรือการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้ ซึ่งวิธีการสร้างความประทับใจในที่ทำงานเหล่านี้สามารถเริ่มได้ด้วยการใช้มารยาทในการทำงานที่เหมาะสม การใช้โทรศัพท์มือถือในที่ทำงาน หากคุณได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือในที่ทำงาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้สร้างความกวนใจให้แก่ผู้คนรอบข้าง ควรลุกออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้องเมื่อจำเป็น รับสายเฉพาะลูกค้าในเวลางาน หรือสายของคนในครอบครัวเท่านั้น ไม่ควรใช้เวลาคุยเล่นทับซ้อนในเวลาทำงาน เป็นต้น เผชิญหน้ากับข้อผิดพลาดของคุณ การเสียใจต่อความผิดพลาดคือมารยาทในการอยู่ร่วมกันอย่างหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะผิดพลาดในเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่...

หนุ่มสาวออฟฟิศที่ดีควรมีทักษะในการ ทำงานเป็นทีม เพราะบางครั้งการที่คุณต้องรับโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ มาทำ คุณย่อมไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ หรือถ้าคุณก็ต้องไปติดต่อกับแผนกต่างๆ หากไม่มีทักษะการ ทำงานเป็นทีม ก็จะไม่ได้รับความสะดวกสบายแน่ๆ  ดังนั้นถ้าคุณสามารถทำงานเป็นทีมได้ เจ้านายก็จะเกิดความไว้วางใจ ไม่คิดว่าคุณเก่งแต่ฉายเดียว สามารถทำงานเป็นทีมได้ด้วย นอกจากนี้การที่คุณสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้นอกจากจะได้ใจเจ้านายแล้ว ก็ยังได้ใจเพื่อนร่วมงานแบบไม่ต้องสงสัย ซึ่งการที่คุณจะสามารถทำงานเป็นทีมได้ดีมีคุณภาพ อย่างน้อยคุณก็ต้องรู้จักนำคุณสมบัติเหล่านี้ไปใช้ เช่น -รับฟังคนอื่นด้วย อย่าเอาแต่ความคิดเห็นของตนคนเดียว...

สาวๆ ออฟฟิศต้องรู้จักสร้าง ความมั่นใจ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดยนำเทคนิคเสริมสร้าง ความมั่นใจ ในเวลาอันรวดเร็วนี้ไปใช้กันค่ะ ถอดสมองเก่าๆ ออกไปซะ                สาวออฟฟิศที่อยากมีความมั่นใจให้สามารถเอาชนะทุกอย่างได้  ก่อนอื่นคุณก็ต้องถอดสมองเก่าออกไปซะ เพราะที่ผ่านมาการที่คุณมักจะไม่ค่อยมั่นใจในตนเอง ก็เพราะสมองของคุณสั่งการเช่นว่า… อย่าทำเลย เดี๋ยวคนอื่นเมาท์เอาจะเปลี่ยนไปทำไม ของเดิมก็โออยู่แล้วมั่นใจมากเดี๋ยวคนหมั่นไส้แย่เลยก็เราเกิดมาขี้อาย จะให้มั่นใจยังไงไหวล่ะ เมื่อสมองเก่าๆ ของคุณคอยแต่จะสั่งการแบบนี้...

มีเทคนิคที่จะช่วยให้คุณเกิดความรู้สึก มีความสุขกับงาน เพื่อช่วยให้คุณไม่ต้องรู้สึกทนทุกข์ทุกครั้งที่ทำงาน และสามารถ มีความสุขกับงาน ที่สำคัญคือคุณจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ถ้าใจรักในงานนั้น    คุณจะมีความสุขกับงานด้วยการมองหาข้อดีจากการงานที่ทำให้ได้ โดยเน้นข้อดีแบบขำๆ ก็จะช่วยให้คุณอารมณ์ดี ไม่มีเครียดเลย เช่น -เทคนิคทำให้รักงานที่ทำ ที่อยากแนะนำคุณคือ ให้คุรคิดเสียว่าไม่มีงาน ก็เท่ากับไม่มีเงินกินข้าว เอามาแต่งตัว เอามาปรนเปรอสุดที่รัก นี่แหละบุญคุณของงานของจริงเลย -คุณจะทำงานด้วยความสุขแน่...

คุณสามารถนำเทคนิคแก้ปัญหาความ กลัวการขาย เหล่านี้ไปใช้ ก็จะช่วยให้การติดต่อเจรจาทำการค้าราบรื่น ปราศจากปัญหา และที่สำคัญคือ คุณจะเปี่ยมด้วยความมั่นใจ และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ มุมมองดีๆ ที่ช่วยให้คิดใหม่                การที่คุณมีมุมมองที่ดีในการเอาชนะความ กลัวการขาย เมื่อต้องติดต่อธุรกิจ ก็จะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะความกลัวได้ที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ที่ปลายทาง ซึ่งแนะนำว่าคุณควรจะลองนำความคิดแบบนี้ไปใช้ดูบ้างเช่น -ห้ามคิดคำว่า “แล้วถ้า…” เนื่องจากหลังจากข้อความนี้จะมีอนาคตเต็มไปหมด...

หากแบ่งกลุ่มคนวัยทำงานในออฟฟิศหนึ่งตามเวลาการเช็คชื่อเข้าทำงาน ก็จะมีอยู่ 3 กลุ่มด้วยกัน คือคนที่เข้างานเช้ามาก มาเร็วก่อนเวลาตลอด กลุ่มนี้มักจะมีกิจกรรมกับเพื่อนร่วมงานในช่วงเช้าอยู่เสมอ ต่อมาคือคนที่ตรงเวลาพอดี และสุดท้ายคือคนที่ เข้างานสาย เป็นประจำ แน่นอนว่า 2 กลุ่มแรกไม่เป็นปัญหาอะไร คนมาสายนี่ต่างหากที่ต้องรีบปรับตัวก่อนจะกลายเป็นปัญหาจนมีสิทธิโดนไล่ออกได้สักวันหนึ่ง ตั้งเวลาที่บ้านให้เร็วกว่าปกติความเคยชินอย่างหนึ่งของคนที่ชอบ เข้างานสาย ก็คือ เขาจะมองว่ายังเหลือเวลาอีกมาก มากพอให้เดินทางไปถึงที่ทำงานได้ทันท่วงที...

     นอกเหนือจากการทำงานในหน้าที่แล้ว  บ่อยครั้งในสายงานของคุณก็มักเรียกร้องต้องการ ความคิดสร้างสรรค์ ใหม่ๆ เสมอ  โดยเฉพาะในยุคนี้ที่อะไรๆ ก็ต้องแตกต่างเข้าไว้ก่อน  หากปรารถนาความสำเร็จและความก้าวหน้าครับ ติดตามต่อในบทความเว็บแนะนำอาชีพ มาฝึกความคิดสร้างสรรค์เพื่อใช้ในที่ทำงาน  สร้างความก้าวหน้ากันเถอะ!         ยิ้มไว้ก่อนแม้จะกร่อนสักแค่ไหน...      เวลาที่คุณคิดเรื่องงานไม่ออกจะเกิดความเครียด  ท้อแท้  แทนที่จะแสดงออกในด้านลบด้วยการหงุดหงิด  พานใส่ผู้อื่น  หรือแม้แต่เศร้าซึม  ให้แสดงออกอย่างร่าเริงด้วยการยิ้มแม้จะฝืนก็ตาม ...

     การทักทาย ผู้อื่นเป็นเรื่องที่ใครๆก็ทำได้  แต่ใช่ว่าทุกคนทำแล้วจะน่าประทับใจ  ส่งเสริมทั้งตนเองและอีกฝ่าย  เรามาดูกันว่าทำอย่างไรจึงจะเป็น การทักทาย อย่างเหนือชั้นครับ ติดตามต่อในบทความเว็บแนะนำอาชีพ เทคนิคการกล่าวทักทายให้ใครๆ ต่างประทับใจคุณ คำทักทาย      ก่อนการพูดแนะนำตัวเราก็ต้องพูดทักทายอีกฝ่ายก่อน  ไม่ใช่มาถึงก็ประกาศชื่อแซ่กันเลย    อย่างนี้ไม่ถูกต้องและเหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติ  ขอยกตัวอย่างการกล่าวทักทายที่เหมาะสมกับบุคคลต่างๆ ดังนี้ครับ  -การทักทายผู้บังคับบัญชา  เช่น ...