อาชีพนักเขียน ไม่ได้ตายไปพร้อมกับหนังสือ

อาชีพนักเขียน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ก็มีหลายอาชีพเริ่มหมดความสำคัญและสูญหายไป อาชีพนักเขียน ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่หลายคนจับตามองอย่างมาก เพราะคาดว่าหนังสือจะไม่มีคนติดตามอ่านเท่ากับสมัยก่อนอีกแล้ว ก็ย่อมส่งผลไปสู่คนที่อาศัยทักษะในด้านการเขียนเลี้ยงชีพอยู่ด้วย ไม่มีคนอ่าน ก็ไม่ต้องมีหนังสือ และไม่จำเป็นต้องมีคนเขียน นี่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่หลายคนกังวลพอสมควร

อาชีพนักเขียน เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่หลายคนจับตามองอย่างมาก และน่าทำมากด้วย

                แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาชีพนักเขียน กลับไม่ได้หายสาบสูญไปอย่างที่คิด เพราะยังไงเสีย คนเราก็ยังต้องเสพข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อผ่อนคลายความเครียด อย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงจะไม่ได้อยากอ่านหนังสือเป็นรูปเล่มอีกแล้ว เปลี่ยนมาอ่านเว็บไซต์ หรือบล็อคในมือถือแทน คนเขียนจึงยังเป็นที่ต้องการอยู่ เพียงแค่เปลี่ยนรูปแบบไปตามยุคสมัยเท่านั้นเอง พร้อมกับต้องมีการพัฒนาทักษะในด้านอื่นๆ ประกอบด้วย

                อาชีพนักเขียน ในยุคก่อนก็แค่มีสำนวนชวนอ่านก็เพียงพอแล้ว แต่ยุคนี้คนไม่ได้ให้น้ำหนักกับความสวยงามของสำนวนมากนัก จึงต้องเรียนรู้การปรับโครงสร้างงานเขียนใหม่ให้เหมาะกับแพลตฟอร์ม ต้องทำรูปพื้นฐานเป็นบ้าง จะได้เอาไว้ประดับบทความให้มีสีสัน ต้องเข้าใจว่าภาษายากๆ นั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป และการใช้ภาษาทางการก็เลือกใช้แค่เฉพาะกิจเท่านั้นเอง เนื่องจากคนอ่านยุคใหม่ต้องการอะไรที่เข้าใจง่าย ยิ่งเป็นภาษาที่อ่านแล้วรู้เรื่องทันทีก็ยิ่งดี

                เมื่อทุกอย่างเปิดกว้างค่อนข้างมาก อาชีพนักเขียน จึงถือกำเนิดขึ้นนับไม่ถ้วน เรียกว่าแค่มีใจรักอยากจะเขียน ก็สามารถเขียนได้เลยทันที เด็กมัธยมก็กลายเป็นไรท์เตอร์ชื่อดัง มีฐานแฟนคลับจำนวนมากได้ การไม่มีกรอบกำหนดว่าบทความแบบไหนดี เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้วงการงานเขียนเติบโตขึ้นต่อไปอีกอย่างไม่หยุดยั้ง โดยไม่ต้องสนใจอีกต่อไปว่าจะมีคนอ่านหนังสือเป็นเล่มอยู่อีกหรือไม่ และไม่ใช่แค่อาชีพนี้เท่านั้นที่ต้องปรับตัว ทุกอาชีพหากไม่ยอมเปลี่ยนก็จะตายไปเองในที่สุด มาดูเทคนิคการอ่านหนังสือแบบเด็กญีปุ่นกัน

>>>แนะนำอาชีพน่าทำ <<< >>>งานอิสระน่าลอง<<<