ขอขึ้นเงินเดือน กับเจ้านายอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์สมใจและเหมาะสม

     หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังตัดสินใจว่าจะ ขอขึ้นเงินเดือน กับเจ้านาย  แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรให้มั่นใจว่าจะไม่คว้าน้ำเหลวกลับมา  เรามีวิธีที่จะทำให้คุณไม่พลาดเป้ามาบอกครับ  ติดตามต่อในเว็บแนะนำอาชีพ

จิตวิทยาขอขึ้นเงินเดือนกับเจ้านายให้ได้ผลและดูดีมีราคา

สินค้าดี

     สินค้าดีขายแพงสักหน่อยคนก็ซื้อ  พนักงานคุณภาพดีเจ้านายย่อมไม่ปล่อยไปที่อื่น  คุณควรเพิ่มมูลค่าตัวเองให้เจ้านายเห็นว่า  ควรค่าแก่การ ขอขึ้นเงินเดือน ให้ตามนี้ครับ

–  มาก่อนเวลา  กลับหลังเจ้านายได้ยิ่งดี

–  เพิ่มเวลาทำงานในแต่ละวันสักครึ่งชั่วโมง

–  ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดตามกำหนดเวลา

–  ฝึกฝนการทำงานเดิมให้คล่องแคล่ว  รู้มากกว่าที่เคยรู้

–  อบรมความรู้ใหม่ๆ ที่สามารถพัฒนางานได้ 

รู้เขารู้เราก่อน

     คือก่อนจะเดินเข้าไปขอขึ้นเงินเดือน คุณต้องรู้ว่าตัวเองและเจ้านายมีข้อดีและข้อด้อยตรงไหน  เจ้านายมาแบบไหนก็จะได้แก้ลำทัน  สามารถดึงข้อดีของตัวเองมาลบล้างแบบเนียนๆ ได้…

ดูดีมีชัย

     วันที่ต่อรองเงินเดือนคุณต้องดูดีกว่าวันปกติ  ด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด  เรียบ  และเรียบร้อย  กระซิบว่าอย่าฉีดน้ำหอม  เพราะอาจแย่งซีนหรือสร้างความรบกวนแก่เจ้านายได้         

เรียกตามสมควรแก่เหตุ

     คุณควรขอขึ้นเงินเดือนอย่างเหมาะสมตามเนื้อผ้า  โดยให้พิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ครับ

–  เรียกตามอายุงาน

–  เรียกตามประสบการณ์ที่สั่งสมมา 

–  เรียกตามวุฒิการศึกษา

–  เรียกตามผลงานที่ปรากฏ

–  เรียกตามความสามารถรวมถึงความสามารถพิเศษด้วย

โก่งราคา

หากมีเจ้านายเขี้ยวลาก  คุณต้อง ขอขึ้นเงินเดือน แพงกว่าที่ควรนิดหน่อย  เพราะอย่างไรก็โดนต่อยับแน่นอน

     จิตวิทยาขอขึ้นเงินเดือนที่สำคัญคือ  การต่อรองด้วยความมั่นใจทั้งสายตา  ท่าทาง  และคำพูด  ทำให้เจ้านายรู้สึกว่าเราไม่ได้มาเล่นๆ…  ให้บอกตัวเองว่าเราไม่ได้มารบกวนหรือขอความเห็นใจ  แต่เรามาขอในสิ่งที่สมควรแก่เหตุครับ

ยิงจุดขาย

     คือการเตรียมสรรพคุณของตัวเองเอาไว้แจกแจงแก่เจ้านาย  ได้แก่

–  ทำงานมานาน  เป็นพนักงานที่ซื่อสัตย์มาตลอด

–  ทำให้บริษัทมีชื่อเสียงและก้าวหน้า

–  มีความเชี่ยวชาญในงานเป็นพิเศษ

–  มีผลงานมาโดยตลอด

–  ได้อัพเกรดตัวเองด้วยการอบรมคอร์สต่างๆ มามากมาย

ปิดการขายให้ไว

     การต่อรองเงินเดือนต้องรีบทำให้ไว  เพราะหากมัวแต่เขินอายหรือเกรงใจ  ทั้งสองฝ่ายย่อมเหนื่อยล้า  แถมเจ้านายยังมีเวลาหาเหตุมาปฏิเสธด้วย  ดังนั้นตรงประเด็นไปเลย  คนจะให้ยืนเฉยๆ เขาก็ให้ครับ…