การทำงานบริษัทกับการเข้าประชุมมักจะเป็นของคู่กันอยู่เสมอ เพราะงานแต่ละชิ้นมันมีความละเอียดและมีสเกลที่ใหญ่เกินกว่าคนเพียงคนเดียวจะรับผิดชอบไหว ยิ่งไปกว่านั้นไอเดียจากคนเพียงคนเดียวก็ไม่มีทางดีไปกว่าการ ระดมสมอง จากเพื่อนร่วมงานหลายๆ คน ดังนั้นทุกครั้งที่ต้องการแนวความคิดสดใหม่ หรือวางแผนโครงการของบริษัท จึงต้องมีการจัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน แต่จะทำอย่างไรไม่ให้ การประชุม นั้นเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันดูที่ เว็บแนะนำอาชีพ จดทุกไอเดียที่เกิดขึ้นในช่วงแรก เมื่อชี้แจงถึงเป้าหมายในการประชุมเรียบร้อยแล้ว ก็ควรเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วม ระดมสมอง เพื่อออกความคิดเห็นอย่างอิสระ...
มนุษย์เงินเดือน
ในตอนแรกของหัวข้อที่ควรหลีกเลี่ยง พูดคุยในที่ทำงาน นั้น เราได้ทราบถึงหัวข้อหลักๆ ที่มีความสำคัญแล้ว ซึ่งหัวข้อเหล่านั้นสามารถก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างรุนแรงได้ และนำไปสู่อารมณ์ระหว่างกัน ในส่วนนี้เป็นหัวข้อที่ค่อนข้างมีระดับความรุนแรงลดลงมา แต่ก็สามารถชักนำให้เกิดแนวคิดในเชิงลบได้เช่นกัน ซึ่งการ พูดคุยในที่ทำงาน ทั้งหมดนี้คุณควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ความใฝ่ฝันในอาชีพของคุณ แม้ความฝันจะเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งคุณก็ไม่ควรแบ่งปันให้ใครได้รับรู้ ถ้าต้องการพูด ก็พูดคร่าวๆ แล้วเปลี่ยนหัวข้อไป อย่าพูดลงรายละเอียดเชิงลึกว่าคุณต้องการอะไรและตั้งใจจะก้าวหน้าแบบไหน...
มีบางสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง การพูดคุยในที่ทำงาน เนื่องจากการพูดถึงหัวข้อเหล่านี้อาจทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณไม่สบายใจ ส่งอิทธิพลต่อความคิดเห็นของพวกเขาที่มีต่อคุณ อีกทั้งความอึดอัดในที่ทำงานอาจส่งผลต่อการทำงานด้วย แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องเช่นนั้น โดยเฉพาะนายจ้าง มาดูกันว่า การพูดคุยในที่ทำงาน ที่ควรหลีกเลี่ยงมีอะไรบ้าง ศาสนา แม้ว่าศาสนาจะเป็นเรื่องที่พูดถึงกันทั่วไปในสังคม แต่เมื่อลดระดับมาสู้กลุ่มคนเล็กๆ ที่มีความเป็นปัจเจกแล้ว หัวข้อนี้ไม่ควรถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างกันเป็นอย่างยิ่ง ความเชื่อของคนคนหนึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว และหลายคนก็อ่อนไหวกับเรื่องนี้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงศาสนาที่คุณนับถือ หรือบางคนอาจไม่เลือกนับถือศาสนาใด ยกเว้นการอวยพรในวันสำคัญ...
เมื่อคุณเป็นพี่เลี้ยงหรือที่ปรึกษาให้ใครคนใดคนหนึ่ง ผลจากคำคำแนะนำของคุณอาจเกิดขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า และยังสามารถส่งผลในเชิงบวกเมื่อเวลาผ่านไปอีกด้วย ก็อยู่ที่คุณแล้วว่าตัดสินใจจะเป็นพี่เลี้ยงที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น หรือจะเป็น พี่เลี้ยงพนักงานใหม่ ที่ฝังเรื่องเชิงลบไว้กับผู้อื่น เมื่อคุณได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่ เมื่อคุณได้รับการมอบหมายหน้าที่ให้เป็น พี่เลี้ยงพนักงานใหม่ สิ่งแรกที่ควรทำคือศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับพนักงานคนนั้น ดูว่าเขามีความถนัด มีความสนใจ รวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางฝ่ายทรัพยากรได้เปิดเผยภายในองค์กรเบื้องต้น ควรทำความเข้าใจถึงพนักงานใหม่ที่จะรับคำปรึกษาของคุณให้ดี เมื่อได้พบหน้ากัน การสร้างความประทับใจแรกระหว่างกันเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อพบหน้าครั้งแรกให้พูดคุยและถามถึงความคาดหวังในเส้นทางอาชีพ ลองชี้แจงถึงบทบาทในฐานะพี่เลี้ยงของคุณว่าสามารถแนะนำเขาในด้านใดได้บ้าง...
การทำหน้าที่เป็น พี่เลี้ยงพนักงานใหม่ เป็นเรื่องที่น่าท้าทายไม่น้อย อย่างที่เรารู้กันดีว่าการเป็นคนเก่งนั้น ไม่เพียงแต่คุณต้องสามารถรับผิดชอบงานของตนเองได้ดี แต่ควรต้องมีความสามารถในการถ่ายทอดให้ผู้อื่นเข้าใจได้ด้วยจึงจะสามารถพูดได้ว่าคุณเป็นคนเก่งรอบด้าน ทั้งความท้าทาย ความสัมพันธ์ ก็ล้วนส่งผลต่อการเป็น พี่เลี้ยงพนักงานใหม่ ได้เช่นกัน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะทำให้เกิดผลดีต่อการทำงานร่วมกันเป็นทีมในอนาคต การ “ให้คำปรึกษา” และ “การฝึกสอน” คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน การให้คำปรึกษา: ประกอบด้วยความสัมพันธ์ระยะยาว ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการเติบโต...
เวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ สัมภาษณ์งาน หลายๆ คนมักจะได้พบกับคำถามสุดคลาสสิกอย่าง “อะไรคือจุดอ่อนของคุณ” และอาจเคยนิ่งงัน ใช้เวลาคิดทบทวนมาแล้ว แม้ว่าคำถามนี้อาจดูเป็นคำถามที่น่ากลัว ดูตอบยาก ทว่าในความเป็นจริงมีวิธีกำหนดมุมมองเชิงบวกในการตอบอย่างง่ายๆ ที่จะช่วยส่งให้ตัวของคุณเปล่งประกายท่ามกลางผู้สมัครรายอื่นได้ดี หากเลือกตอบอย่างเข้าใจ ทำความเข้าใจ “หัวใจ” ของคำถาม การที่ผู้สัมภาษณ์งานถามคำถามนี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเล่ารายละเอียดทั้งหมดว่าตนเองมี “จุดอ่อน” เรื่องใดบ้าง แต่คุณต้องระบุเฉพาะจุดอ่อนเจาะจงที่อาจส่งผลถึงการทำงานร่วมกันกับทีม...
อย่าประมาทความสำคัญในการสร้าง ความประทับใจในที่ทำงาน เมื่อเจ้านายและเพื่อนร่วมงานของคุณรู้ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาคุณให้ทำงานที่ดีได้ คุณก็จะเริ่มได้รับความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การได้รับคำชม รางวัล สวัสดิการ หรือการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้ ซึ่งวิธีการสร้างความประทับใจในที่ทำงานเหล่านี้สามารถเริ่มได้ด้วยการใช้มารยาทในการทำงานที่เหมาะสม การใช้โทรศัพท์มือถือในที่ทำงาน หากคุณได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือในที่ทำงาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้สร้างความกวนใจให้แก่ผู้คนรอบข้าง ควรลุกออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้องเมื่อจำเป็น รับสายเฉพาะลูกค้าในเวลางาน หรือสายของคนในครอบครัวเท่านั้น ไม่ควรใช้เวลาคุยเล่นทับซ้อนในเวลาทำงาน เป็นต้น เผชิญหน้ากับข้อผิดพลาดของคุณ การเสียใจต่อความผิดพลาดคือมารยาทในการอยู่ร่วมกันอย่างหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะผิดพลาดในเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่...
งานจะยอดเยี่ยมมาก ถ้าคุณสามารถทำงานกับคนที่คุณชอบได้ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่เคารพในที่ทำงานแต่ยังมีความสุขในการพบปะสังสรรค์นอกเวลางานอีกด้วย แต่ในโลกของความเป็นจริง คุณอาจไม่ได้ทุกสิ่งตามที่ต้องการเสมอไป บางอาจแยกเรื่องส่วนตัวและงานออกจากกันได้โดยสิ้นเชิง แต่บางคนก็รู้สึกทรมานใจอย่างมากที่ต้องฝืน ดังนั้นบางครั้งคุณอาจจมไปกับปัญหาเรื่อง เพื่อนร่วมงาน แล้วคุณจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร แจกแจงพฤติกรรมของ เพื่อนร่วมงาน ที่ไม่ชอบ คุณลองเขียนออกมาว่าคนประเภทไหนบ้างที่คุณไม่ชอบ อาจทำเป็นเช็กลิสต์แยกข้อไปเลย จากนั้นเมื่อได้รายการของพฤติกรรมที่คุณไม่ชอบแล้ว มาลองระบุไปที่เพื่อนร่วมงานคนที่คุณไม่ชอบดูว่าเขามีทั้งหมดนี้ร่วมกันกี่ข้อ แล้วเรื่องใดบ้างที่เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องใดที่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน เรื่องใดที่แก้ไขได้ด้วยการคุยกัน...
ปกติแล้วคุณอาจเป็นแค่สาวออฟฟิศธรรมดาที่ทำงานไปวันๆ แต่คุณรู้ไหมว่าการที่ทำตัวเรียบๆ เงียบๆ แบบนี้ทุกวัน ก็จะทำให้คุณถูกกลืนหายไม่เป็นที่จดจำ และยังทำให้เกิดผลเสียมากมาย ขณะที่การอัพเกรดให้เป็น สาวออฟฟิศ คนเก่ง ก็จะช่วยให้คุณได้ประโยชน์มากมาย เช่น คนในออฟฟิศเห็นคุณค่า ข้อดีของการเป็นสาวเก่ง คือแน่นอนค่ะว่าเมื่อเราอัพเกรดเป็น สาวออฟฟิศ สวย เก่ง มากความสามารถแล้ว ใครๆ...
หนุ่มสาวออฟฟิศที่ดีควรมีทักษะในการ ทำงานเป็นทีม เพราะบางครั้งการที่คุณต้องรับโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ มาทำ คุณย่อมไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ หรือถ้าคุณก็ต้องไปติดต่อกับแผนกต่างๆ หากไม่มีทักษะการ ทำงานเป็นทีม ก็จะไม่ได้รับความสะดวกสบายแน่ๆ ดังนั้นถ้าคุณสามารถทำงานเป็นทีมได้ เจ้านายก็จะเกิดความไว้วางใจ ไม่คิดว่าคุณเก่งแต่ฉายเดียว สามารถทำงานเป็นทีมได้ด้วย นอกจากนี้การที่คุณสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้นอกจากจะได้ใจเจ้านายแล้ว ก็ยังได้ใจเพื่อนร่วมงานแบบไม่ต้องสงสัย ซึ่งการที่คุณจะสามารถทำงานเป็นทีมได้ดีมีคุณภาพ อย่างน้อยคุณก็ต้องรู้จักนำคุณสมบัติเหล่านี้ไปใช้ เช่น -รับฟังคนอื่นด้วย อย่าเอาแต่ความคิดเห็นของตนคนเดียว...