วิธีการเลือกเทรนเนอร์ จากที่เคยเห็นตามสื่อโซเชียลหลายแหล่งเกี่ยวกับข้อถกเถียงเรื่องอาชีพครูฝึกส่วนบุคคล หรือที่เรียกกันว่า “เทรนเนอร์” ในช่วงทำเหมือนเดิมแต่ไม่เหมือนเดิม ที่มีข่าวเรื่องมีกล้ามชัดก็เทรนได้แล้ว เทรนออกกำลังกายจนลูกค้าได้รับบาดเจ็บบ้าง ผิดลักษณะการฝึกบ้าง แต่สิ่งที่เกิดปัญหามากที่สุดนั่นก็คือ ความน่าเชื่อถือของอาชีพเทรนเนอร์ และข้อถกเถียงระหว่างองค์ความรู้ ศักยภาพของเทรนเนอร์ที่อบรมวิชาชีพระยะสั้นตามสถาบันอบรมอาชีพเทรนเนอร์โดยเฉพาะ และเทรนเนอร์ที่จบวิทยาศาสตร์การกีฬาโดยตรงยังคงเป็นปัญหาต่อสายงานและความปลอดภัยของลูกค้า
วิธีการเลือกเทรนเนอร์ ว่าคนนี้มีความมืออาชีพมากน้อยแค่ไหน
มีเคล็ดลับอยู่ 5 อย่างในการเลือกคนที่จะมาสอนออกกำลังกายให้เรา ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถใช้สำหรับลูกค้าที่มองหาเทรนเนอร์ที่ทำอาชีพแบบประจำและทำแบบอาชีพอิสระ (ฟรีแลนซ์) ว่าจะเทรนเรายังไงให้เป็นมืออาชีพ ไม่ทำให้เราได้รับอันตรายในภายหลัง มีวิธีเลือกดังนี้

- เลือกเพราะบุคลิกและความน่าเชื่อถือของความรู้
อาชีพเทรนเนอร์นอกจาก First Impression ที่ทำให้ประทับใจนั้น สิ่งที่ควรมีนั่นคือเขามีความรู้จะสอนเรา เซฟเราแบบไหนถึงจะปลอดภัย และการวางตัว แนวคิดของเทรนเนอร์ถูกต้องตามขอบเขตวิชาชีพหรือไม่ เพราะหัวใจสำคัญของการเทรนไม่ใช่แค่หุ่นดีอย่างเดียว แต่ต้องดูว่าการจัดวางท่า การให้คิว การสาธิต การเทรนตรง Target ของลูกค้า รวมไปถึงการระมัดระวังการบาดเจ็บของลูกค้า อันนี้ถือว่าสำคัญมากเลยล่ะ
- เทรนเนอร์คนนี้ต้องไม่มีประวัติเสีย
ต่อให้มีประสบการณ์ด้านอาชีพมากแค่ไหน ผ่านอบรมสถาบันใดมา อายุการทำงานกี่ปีไม่สำคัญเลย ถ้าเทรนเนอร์คนนั้นมีประวัติเสีย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับเทรนตามสื่อต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย บางคนอาจจะให้ข้อมูลที่บิดเบือน เช่น แนวคิดเรื่องลดเฉพาะส่วนได้ เหงื่อจะกลายเป็นไขมัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง คนที่สงสัยมีโอกาสขุดคุ้ยได้ถ้าไม่ชอบมาพากล หรือมีเรื่องคดีร้ายแรง เช่น ล่วงละเมิดทางเพศ ลักทรัพย์ หรือมีลักษณะไปในทางชู้สาว ถ้ามีประวัติเสียแล้วกลับมากู้ยาก ไม่สามารถประกอบวิชาชีพตามเดิม
- แยกแยะเรื่องส่วนตัวได้ไหม
งานทุกงานควรรู้เวลาการจัดการตนเอง สิ่งที่เทรนเนอร์ไม่ควรทำในอาชีพของตนเลยคือ ติดโทรศัพท์ มัวไปทำเรื่องของตนเองอยู่ ชีวิตมีแต่ความเศร้า น้อยเนื้อต่ำใจตลอดเวลา อารมณ์ฉุนเฉียว หรือพูดจาเหวี่ยงใส่ลูกค้าด้วยความไม่พอใจ เมื่อเกิดขึ้นแบบนี้ลูกค้าสามารถโบกมือลาได้ทันที เนื่องจากอาชีพเทรนเนอร์ เป็นอาชีพบริการ ควรมี Service Mind ให้มากๆ ควบคู่กับพัฒนาตัวเองตามมา

- ยกตนข่มท่านหรือไม่
ถ้าเป็นการแนะนำ ให้ความรู้ทั้งคนรู้จักออกกำลังกายและคนไม่เคยออกกำลังกาย สามารถแชร์ความรู้ให้กันได้ แต่คนที่ยกตนข่มท่าน ถืออัตตาในตนเอง มีไม่น้อยที่ทำไปโดยไม่เจตนา ยกตนว่าเด่นกว่าคนอื่น ทับถมเพื่อนในวิชาชีพด้วยกันไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำกับอาชีพอิสระ ถือว่าคนเป็นเทรนเนอร์ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการสร้างความหมั่นไส้ให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือทำให้ลูกค้าเริ่มไม่ชอบใจจนไม่รู้ว่าเขาจ้างคุณมาสอนหรือจ้างให้คุณมาอวด
- รับผิดชอบเราได้หรือไม่
ในข้อนี้เป็นวิธีเลือกที่สำคัญมากในการเลือกเทรนเนอร์ อาจจะถามแบบลองใจดูว่าถ้ามีอาการบาดเจ็บก่อนจะมาแต่อยากออกกำลังกาย จะต้องทำยังไงบ้าง ซึ่งควรให้ทั้งคำแนะนำและการรับผิดชอบต่อลูกค้าควบคู่กัน ถ้าเกิดการบาดเจ็บ เราจะจัดการกับสิ่งเหล่านั้นอย่างไรอย่างมืออาชีพ และลูกค้าประทับใจที่สุด

การเลือกเทรนเนอร์สำหรับลูกค้า ก็เป็นแนวทางในการตัดสินใจทางด้านความปลอดภัย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องดูองค์ความรู้ของเทรนเนอร์ว่าเขาสามารถแนะนำอะไรได้บ้าง เทรนอย่างปลอดภัย สนุกสนานและมีความสุขหรือไม่ อาชีพเทรนเนอร์ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นครูฝึกออกกำลังกายโดยเฉพาะ แต่ครูฝึกที่ดีต้องมีจรรยาบรรณเพื่อดูแลลูกค้าจนกระทั่งได้ผล ไม่ใช่แค่ให้จบคอร์สอย่างเดียวเพื่อสื่อถึงการรู้หน้าที่ หากครูฝึกสอนดี เราแทบไม่ต้องขายแบบจัดหนักเลย เราสามารถเอาความเชื่อมั่นของลูกค้าเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มเครดิตให้ตนเองได้เช่นกัน เว็บแนะนำอาชีพ งานอดิเรก ที่คุณไม่ควรพลาด อาจทำเงินให้คุณจะลืมงานประจำก็ได้
- นักจิตวิทยาสัตว์เลี้ยง โดยรายได้ต่อเดือน ตกหลักล้านกันเลยทีเดียว
- จำแนกเพศไก่ อาชีพเงินดีแต่ไม่มีใครทำ รายได้ถึงปีละ 2 ล้านบาท
- อาชีพน่าสนใจ ในยุคนี้ ให้เราได้เปิดมุมมองใหม่ในการเลือกอาชีพ
- อาชีพที่น่าสนใจ ในระบบออนไลน์ ง่าย ๆ ปี 2566 อาชีพไหนน่าสนใจ
- อาชีพเสริมหลังเลิกงาน ไม่ได้ทำง่าย ทว่าลองศึกษาดี ๆ จะรู้ได้เลยไม่ยาก
More Stories
นักจิตวิทยาสัตว์เลี้ยง โดยรายได้ต่อเดือน ตกหลักล้านกันเลยทีเดียว
จำแนกเพศไก่ อาชีพเงินดีแต่ไม่มีใครทำ รายได้ถึงปีละ 2 ล้านบาท
อาชีพน่าสนใจ ในยุคนี้ ให้เราได้เปิดมุมมองใหม่ในการเลือกอาชีพ