เคล็ดลับสยบคนชอบ ” จับคู่จิ้น ” พร่ำเพรื่อในที่ทำงาน

จับคู่จิ้น สวัสดีจ้าทุกคน…นี่ก็จะเป็นบทความเชิงเสนอจากประสบการณ์จริง เพราะว่าผู้เขียนมีเพื่อนผู้ชาย ผู้หญิงบ้าง แต่จะโดนจิ้นกับเพื่อนผู้ชายบ่อยมาก ยิ่งคนที่คุยด้วย ไม่ว่าจะโดนจับเป็นคู่จิ้นจากเพื่อนที่คณะ รุ่นพี่ในสายงาน และล่าสุดโดนจิ้นจากที่ทำงาน โดนว่าแอบปิ๊งใครอยู่เหรอ “จีบพี่คนนั้นเหรอ” เอาแล้ว…คุยกับใครกลายเป็นจีบกันซะงั้น ถ้าไปคุยกับใครก็โดนจิ้นอย่างนั้นเหรอ นี่แค่คุยยังขนาดนี้ ถ้ามีตัวจริงในใจเป็นตัวเป็นตนนี่จะวางตัวยังไงนะ หลายคนคงมีประสบการณ์เพื่อนในที่ทำงานชอบแซว “เฮ้ย…ชอบคนนี้เหรอ” “ทำไมหน้าแดงเวลาคนนี้มาล่ะ” บางทีสมมุติว่าเราแอบชอบใครจริงๆ ก็ได้แต่ไม่กล้าบอกเขาด้วยบางเหตุผล ขอบเขตในที่ทำงาน และมีไม่น้อยที่มักโดนเพื่อนใกล้ตัว หรือเพื่อนสนิทจับเราไปจิ้นกับคนโน้นคนนี้ที ฟังไปก็เหมือนจะอบอุ่นดีนี่ ที่มีเพื่อนคุยกับเราอยู่ แต่บางครั้งจะจับใครเป็นคู่จิ้นอะไรก็ต้องจิ้นอย่างมีขอบเขต เพราะอะไรที่มันมากเกินไป คำว่าคู่จิ้นจะกลายเป็นเรื่องรำคาญใจแทน

จับคู่จิ้น เคล็ดลับสยบคนชอบ พร่ำเพรื่อ

เคล็ดลับสยบคนชอบ “จับคู่จิ้น” พร่ำเพรื่อ

ผู้เขียนเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เกิดจับคู่จิ้นเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเพราะคนที่โดนจับจิ้นบ่อยในมุมมองและประสบการณ์โดนจิ้นแทนของผู้เขียน ในที่ทำงาน คนที่โดนจับคู่จิ้น ส่วนมากมักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยยุ่งเรื่องความรักสักเท่าไหร่ หรือบางคนอาจเป็นคนที่ introvert หรือโลกส่วนตัวสูง จะโดนจิ้นง่ายมาก (แล้วผู้เขียนเป็นแบบนั้นซะด้วยสิ) มักเป็นคนประเภทที่ว่า “รักไม่ยุ่ง…มุ่งแต่เรื่องตัวเอง” และมี Comfort Zone ชัดเจน แน่นอนว่าในสังคมแต่ละรูปแบบ ยิ่งสนิทมากเท่าไหร่ เรื่องจิ้นก็มีมากขึ้นเท่านั้น เช่น สนิทกับเพื่อนต่างเพศในที่ทำงาน อาจจะเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือเพื่อน ไม่แปลกถ้าจะมีแซวกันบ้างเป็นเรื่องธรรมชาติ เราก็ไม่รู้ว่าจะจับคู่จิ้นแทนเราไปถึงไหน? บางทีผู้เขียนก็หงุดหงิดแทนนะ เพราะแซวทีเป็นอะไรที่ซ้ำซาก จำเจ มีแต่เรื่องเดิมๆ อะไรก็ไม่รู้ เล่นอะไรที่มันไร้สาระเอามากๆ แต่ก็พอมีวิธีสยบพวกจิ้นเราในเรื่องนี้บ่อยๆ ในที่ทำงานด้วยสติของเราเอง จึงมีวิธีแนะนำดังนี้

1. บอกว่าพอแล้ว

ถ้าบอกว่าพอแล้ว นั่นแปลว่า…ไม่โอเคแล้วนะ นั่นแปลว่าต้องหยุดแซวทันที ไม่ใช่ว่าเขาเขินแล้วยังแซวต่อ บางทีการเขินของเขา เขาโดนจับเป็นคู่จิ้นทำตัวไม่ถูกก็ได้ แต่บางทีอะไรที่มากเกินไปใช่ว่าจะดี มันจะกลายเป็นการล้ำเส้นโดยไม่เจตนา ดีไม่ดีเขาอาจจะหงุดหงิดในใจแต่ไม่อยากพูดก็ได้

2. หงุดหงิดแล้วนะ

บางครั้งคำพูดปรามๆ ก็เหมือนอาจจะได้ใจมากกว่าเดิม ลองหนักแน่น ยืนกอดอกดูว่า จะหยุดจับคู่จิ้นสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ไหม เพราะตอนนี้ไม่โอเค และไม่สนุกด้วย ฉันไม่ชอบ ไม่ตลกด้วย และไม่พอใจมากด้วย ถ้าเขาดูท่าทีออกจะหยุดแซวทันที เขาไม่เล่นด้วยนะแบบนี้ มันจะพาลไม่ชอบหน้าเปล่าๆ ของจะขึ้นแทนเอาได้

3. แค่เพื่อนจริง ๆ

ในที่ทำงานก็อาจมีคำถามว่า “รู้สึกยังไงกับคนนี้” เราบอกไปตรงๆ เลยว่าคิดกับคนนั้นคนนี้แค่เพื่อนจริง ๆ ด้วยความมั่นใจของเรา เพราะว่าเรารู้ตัวว่าเราทำอะไร เราคิดอะไรอยู่ เคารพตัวเองพอ เพราะอะไรถึงคิดแค่เพื่อน และเข้าใจตัวเองดีว่าทำอะไร ไม่เคยคิดกับใครเกินเลย ถ้าชอบใครเดี๋ยวบอกเอง ไม่ต้องมารู้ดี ไม่ต้องเป็นธุระให้วุ่นวายว่าชอบใครด้วย นี่แหล่ะหนา “ไม่มีคนรู้ใจ แต่คนรู้ดีเต็มไปหมด”

4. มันไม่ใช่สเปกฉัน

คำนี้ใช้ได้ทั้งกรณีคนที่โสดและไม่โสด (แต่คนของตัวเองเป็นสเปกที่ต้องการ) อันนี้ถือว่ามีความเด็ดขาดอยู่นะ ถ้าบอกว่านี่ไม่ใช่สเปกของฉัน ได้ยินแล้วต้องแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่นเถอะ เป็นใครจะไม่ร้องอู้หูด้วยความทึ่งล่ะ นั่นแปลว่าคนที่แซวไป เขาชัดเจนในจุดยืนของตนเองมาก ก็ควรจะหยุดจับคู่จิ้นว่าจิ้นโน่นจิ้นนี่ได้แล้วล่ะ…ว่าไหม

5. ฉันมีแฟนแล้ว

ในกรณีที่มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตน แล้วเราก็ให้เกียรติคนของเราด้วย เกรงใจสักนิดก็ยังดี การที่บอกไปว่าไม่โสดแล้ว ถือได้ว่าสงบปากสงบคำของพวกชอบจับคู่จิ้นในที่ทำงานได้มาก และไม่จำเป็นต้องโกหกตัวเองหรือโกหกใคร เพื่อที่จะมาชอบคน ๆ นี้อย่างนั้นหรือ? แล้วนี่เองก็เป็นตัวบ่งบอกความซื่อสัตย์ของคนรักได้เป็นอย่างดี อีกอย่างก็สบายใจไปอีกเปาะว่าจะไม่มีคนจับจิ้นให้ปวดหัว

แล้วนี่เองก็คือเคล็ดลับในการสยบพวกชอบจับคู่จิ้นในที่ทำงานว่าชอบคนโน้นคนนี้ เป็นธรรมดาที่ขึ้นอยู่กับการวางตัว และการแสดงออกของเรา บางคนไม่ค่อยพูดถึงเรื่องความรักสักเท่าไหร่ บางทีมันก็น่าจิ้นอยู่ ไม่ว่าจะระดับความสนิทของแต่ละคนจะต่างกันยังไง เรื่องจิ้นในหมู่เพื่อนก็ต้องมีบ้าง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่หรือเลวร้ายอะไร แต่บางทีก็ควรเคารพในขอบเขตซึ่งกันและกัน ถ้าเกินไปอาจจะน่ารำคาญแทนที่จะมีความสุขตาม Series ก็ได้นะจ๊ะ

ลองเข้ามาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวอาชีพได้จาก เว็บแนะนำอาชีพ

หรือบทความดีๆเกี่ยวกับอาชีพ อาชีพเสริม

ข่าวสารเกี่ยวกับอาชีพอื่นๆเช่น สุดยอด 5 สาขาอาชีพด้านเทคโนโลยี เรียนแล้วไม่ตกงานในศตวรรษที่ 21